
ความเป็นมา
1. การริเริ่มระหว่างประเทศ
การพัฒนากรอบทางกฎหมายในระดับระหว่างประเทศคณะกรรมาธิการกฎหมายการค้าระหว่างประเทศแห่งสหประชาชาติ (United NationsCommission on International Trade Law – UNCITRAL) ได้ให้ความเห็นชอบต่อ‘Model Law on Electronic Commerce’ ในการประชุมสมัยสามัญครั้งที่85 เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม ค.ศ.1996 ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อเสนอกรอบทางกฎหมายที่ยอมรับผลทางกฎหมายของการติดต่อสื่อสารด้วยข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์(Data Message) ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ประเภทต่างๆ เช่น
อินเทอร์เน็ต, อีดีไอ (EDI), โทรศัพท์,โทรสาร ฯลฯเพื่อให้สมาชิกแต่ละประเทศนำไปปรับปรุงกฎหมายภายในประเทศตามความเหมาะสมและมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุน “พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์”อีกด้วย ดังนั้น กฎหมายต้นแบบ (Model Law) จึงหาได้เป็นกฎหมายระหว่างประเทศไม่แต่เป็นข้อเสนอแนะทางกฎหมายที่มีลักษณะกว้างเพื่อให้แต่ละประเทศสามารถกำหนดรายละเอียดของกฎเกณฑ์ของตน
ที่มา: UNCITRAL Model Law on ElectronicCommerce with Guide to Enactment (1996) at http://www.uncitral.org
2. การริเริ่มในประเทศ
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้กระทรวงยุติธรรมรับผิดชอบดำเนินการในเรื่องกฎหมายว่าด้วยพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์(UNCITRAL Model Law on Electronic Commerce) และอนุมัติโครงการปรับปรุงและพัฒนากฎหมายเกี่ยวกับการค้าระหว่างประเทศของไทยเมื่อวันที่30 ธันวาคม 2540 และดำเนินการยกร่าง พ.ร.บ. การพาณิชย์ทางอิเล็กทรอนิกส์
คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบในการจัดทำ “โครงการพัฒนากฎหมายเทคโนโลยีสารสนเทศ”ที่ดำเนินการโดยคณะกรรมการเทคโนโลยีสารสนเทศแห่งชาติและเห็นชอบให้คณะกรรมการเทคโนโลยีฯ
เป็นศูนย์กลางดำเนินการและประสานงานระหว่างหน่วยงานต่างๆที่กำลังดำเนินการจัดทำกฎหมายเทคโนโลยีสารสนเทศและกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2541 ซึ่งประกอบด้วยกฎหมาย6 ฉบับ ได้แก่
1. กฎหมายเกี่ยวกับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
(เดิมเรียกว่า กฎหมายแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์)
2. กฎหมายเกี่ยวกับลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์
3. กฎหมายเกี่ยวกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสารสนเทศให้ทั่วถึงและเท่าเทียมกัน
4. กฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
5. กฎหมายเกี่ยวกับอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์
6. กฎหมายเกี่ยวกับการโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์
ต่อมามีการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2542 เพื่อพิจารณารวมร่าง พ.ร.บ. การพาณิชย์ทางอิเล็กทรอนิกส์ที่กระทรวงยุติธรรมจัดทำขึ้นและร่าง พ.ร.บ. ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
เพราะมีเนื้อหาสำคัญหลายส่วนที่คล้ายคลึงกันจึงได้ข้อสรุปในการรวมร่างกฎหมายทั้ง 2 ฉบับ ให้ใช้ชื่อว่าร่าง พ.ร.บ. ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบต่อร่างกฎหมายฉบับนี้ และร่าง พ.ร.บ. ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์
เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2543 ในชั้นการพิจารณาร่างกฎหมายของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สำนักงานฯ ได้เสนอให้รวมหลักกฎหมายของกฎหมายทั้ง 2 ฉบับและเสนอต่อคณะรัฐมนตรี
ๆ ให้ความเห็นชอบและเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรต่อไปเมื่อร่างกฎหมายดังกล่าวผ่านความเห็นชอบของรัฐสภา จึงประกาศเป็นกฎหมายชื่อว่า “พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2544” เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2544 และมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2545