- กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
กฎหมายนี้จะทำให้การนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้ประโยชน์โดยขัดต่อวัตถุประสงค์ของเจ้าของข้อมูลเป็นความผิดร้ายแรงนอกจากนี้การบุกรุกเข้าระบบคอมพิวเตอร์เพื่อดูข้อมูลหรือนำไปเผยแพร่ต่อโดยมิได้ประกอบความผิดอื่นเช่น บุกรุกเข้าไปในระบบร้านค้าแล้วนำหมายเลขบัตรเครดิตของลูกค้าในเวบไซต์ไปเผยแพร่โดยมิได้นำหมายเลขนั้นไปประกอบการทุจริตซึ่งในอดีตจะมีความผิดเพียงการละเมิดลิขสิทธิ์เท่านั้นแต่กฎหมายนี้จะทำให้ผู้บุกรุกเข้าไปดูข้อมูลสามารถถูก - กฎหมายอาชญากรรมคอมพิวเตอร์
เป็นการมองว่าทรัพย์สินนั้นมิได้เป็นเพียงวัตถุที่มีรูปร่างเช่น บ้าน รถยนต์
เท่านั้น แต่ข้อมูลที่อยู่ในรูปอิเล็กทรอนิกส์ก็ถือเป็นทรัพย์สินประเภทหนึ่งดังนั้นการบุกรุกระบบคอมพิวเตอร์เพื่อขโมย แก้ไขดัดแปลง หรือ ลบข้อมูลคอมพิวเตอร์เหล่านี้ถือเป็นอาชญากรรมที่สามารถลงโทษตามกฎหมายได้ - กฎหมายโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์
ปัจจุบันระบบการโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ในประเทศไทยเช่น โอนเงินข้ามธนาคาร
หรือถอนเงินจากตู้ ATM หรือแม้แต่ การชำระเงิน ผ่านระบบดิจิตอลต่างๆเกิดขึ้น มากมายหลายแบบจึงมีความจำเป็นที่ไทยต้องมีกฎหมายนี้เพื่อเสริมให้ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์มีความคล่องตัวขึ้น - กฎหมายลำดับรองของรัฐธรรมนูญ มาตรา ๗๘
การเข้าถึงเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเป็นสิ่งจำเป็นที่จะทำให้พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ขยายตัว
วัตถุประสงค์ของกฎหมายฉบับนี้คือการผลักดันให้เกิดการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของระบบสารสนเทศทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์ให้เกิดความทั่วถึงทั้งประเทศ
ทั้งนี้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา ๗๘ ซึ่งบัญญัติไว้ว่า “รัฐต้องกระจายอำนาจให้ท้องถิ่นพึ่งตนเอง...ตลอดทั้งโครงสร้างพื้นฐานสารสนเทศในท้องถิ่นให้ทั่วถึงเท่าเทียมกันทั่วประเทศ”
นอกจาก พรบ. ว่าด้วยธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์แล้ว ประเทศไทยยังมีกฎหมายอีกหลายฉบับเพื่อที่จะทำให้การทำธุรกรรมผ่านระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์มีความปลอดภัยขึ้น
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น