การคุ้มครองผู้บริโภค

กฎหมายในประเทศต่าง ๆ ปกป้องสิทธิของผู้บริโภคโดยเฉพาะการชำระเงินด้วยบัตรเครดิต
ซึ่งผู้ขายสินค้าอาจถูกปฏิเสธการชำระเงินด้วยสาเหตุเหล่านี้ได้
  1. โดยหลักการกฎหมายทั่งไปการทำสัญญาโดยผู้เยาว์มักถูกพิจารณาให้เป็นโมฆะ
    ซึ่งการชื้อขายผ่านอินเทอร์เน็ตนั้นผู้ขายไม่มีทางทราบว่าผู้ธุรกรรมอยู่เป็นผู้เยาว์หรือไม่เช่นเด็กอาจขโมยหมายเลขบัตรเครดิตจากผู้ปกครองมาใช้อย่างไรก็ตาม กฎหมายบางประเทศ เช่น ฝรั่งเศส ถือว่าผู้ปกครองยังคงต้องรับผิดชอบการใช้บัตรเครดิตนั้นเต็มจำนวนเนื่องจากเป็นการเลินเล่อของตน
    ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีการกำหนดกรอบความรับผิดชอบไว้ระบบกฎหมายนี้มีไว้เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้ช่องโหว่โดยให้เด็กเป็นผู้ทำธุรกรรมให้
  2. การค้ากับลูกค้าในยุโรปจะอยู่ภายใต้กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค Directive on Consumer
    Protection as Regards Contracts Between Absents ซึ่งการค้าอินเทอร์เน็ตอยู่ในข่ายนี้ด้วย
    โดยให้สิทธิ์ผู้ชื้อในการยกเลิกการตัดสินใจภายใน ๗ วันหลังจากได้รับสินค้า
    หรือบริการได้ โดยไม่คำนึงว่าจะชำระเงินด้วยวิธีใดและหากเป็นการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตผู้ชื้อสามารถยกเลิกการชื้อนั้นได้เลยยกเว้นผู้ขายจะพิสูจน์ได้ว่าผู้ชื้อมีเจตนาทุจริต
  3. ปัจจุบันแต่ละประเทศในยุโรปใช้ Directive นี้แตกต่างกันไป เช่น
  4. ในฝรั่งเศสให้เวลาผู้ชื้อคือสินค้าภายใน ๗ วัน ในขณะที่เยอรมันและอังกฤษให้เวลา ๑๖
    วัน ส่วนในอิตาลีนั้นไม่จำกัดเวลาแต่ให้สิทธิ์ผู้ชื้อคืนสินค้าได้เสมอหากสินค้าที่สั่งนั้นไม่ตรงกับที่ระบุในคำสั่งชื้อ
  5. ประเทศสหรัฐอเมริกามีกฎหมาย Fair Credit BillingAct ซึ่งจำกัดความรับผิดชอบสูงสุดของผู้ชื้อไม่เกิน ๒๐๐เหรียญสหรัฐหากมีข้อขัดแย้งกับผู้ขาย ส่วน อังกฤษมีกฎหมาย Consumer Credit Act
    1974 ในเนื้อหาคล้ายกันโดยจำกัดความรับผิดชอบของเจ้าของบัตรไม่เกิน ๕๐ ปอนด์
    และที่เหลือรับผิดชอบโดยธนาคารผู้ออกบัตรของผู้ชื้อ

ไม่มีความคิดเห็น: